ประเด็นร้อน
ก.ล.ต.เร่งแก้กม.ทางแพ่ง 'ใช้คำสั่งศาล' เรียกเงินนักปั่นหุ้นคืน
โดย ACT โพสเมื่อ Oct 16,2017
- - สำนักข่าวประชาชาติธุรกิจ - -
ก.ล.ต.ศึกษาหาช่องเสริมเขี้ยว "ใช้คำสั่งศาล" เรียกคืนเงิน "นักปั่นหุ้น-บิ๊ก บจ." ทำผิด กม.หลักทรัพย์ จ่อแก้ไขลงโทษทางแพ่งเติมใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯฉบับใหม่ เผยสถิติ 10 เดือน จัดหนัก 8 คดี คนทำผิด 21 ราย ปรับ-ชดใช้เงินรวม 50 ล้านบาท
นายสมชาย พงษ์พัฒนาศิลป์ ผู้ช่วย เลขาธิการ สายบังคับใช้กฎหมาย สำนักงาน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต.อยู่ระหว่างศึกษาข้อกฎหมายใหม่เพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการลงโทษทางแพ่งสำหรับผู้กระทำความผิด กฎหมายหลักทรัพย์ในกรณีความผิดร้ายแรง เช่น การทุจริต การระดมทุนหรือประกอบธุรกิจหลักทรัพย์โดย ไม่ได้รับอนุญาต เป็นต้น เหตุเพราะการ กระทำความผิดเหล่านี้ตามกฎหมายเดิมต้องดำเนินคดีทางอาญา ซึ่งจำเป็นต้องพิสูจน์ความผิดได้ถึงจะนำมาสู่ขั้นตอนลงโทษตามกฎหมาย
"การเอาผิดโทษร้ายแรงตามกฎหมายเดิม ต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูล หลักฐานให้รอบคอบ และมัดตัวผู้กระทำผิดได้ ส่วนนี้ ก.ล.ต.จึงเล็งเห็นว่าก่อให้เกิด ช่องว่างในการกระทำผิดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้กระทำผิดอาจมองว่าการกล่าวโทษคดีทางอาญาจำเป็นต้องตรวจสอบเอาผิดอย่างรอบคอบ และใช้เวลานาน หากไม่มีหลักฐานมัดตัวจริงก็ไม่สามารถเอาผิดได้ ตอนนี้ ก.ล.ต.จึงอยู่ระหว่างพิจารณาข้อกฎหมายใหม่เพื่อดำเนินการเอาผิดโทษทางแพ่ง ควบคู่ไปกับโทษทางอาญา"
สำหรับแนวทางในการเสนอแก้กฎหมายดังกล่าว จะเรียกร้องให้ศาลเพิ่มอำนาจตัดสินเรียกเงินคืนพร้อมดอกเบี้ยจากการทุจริต พร้อมทั้งนำเงินจากการ กระทำผิดทั้งหมดคืนให้กับบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำผิดในครั้งนั้น รวมถึงยังคงให้คดีอาญาไม่ระงับผลทางคดี อีกด้วย ทั้งนี้ การแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติมดังกล่าวจะจัดอยู่ใน พ.ร.บ.หลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ฉบับแก้ไขใหม่ โดยอาจจัดเป็นฉบับที่ 7-8
"การแก้ไขเพิ่มเติมนี้ก็เพื่อให้ สอดคล้องกับพฤติกรรมการทุจริตในตลาด หลักทรัพย์ฯที่เปลี่ยนแปลงไป เพราะการกระทำผิดในปัจจุบันไม่ใช่แค่ลักษณะการปั่นหุ้น แต่มีการกระทำผิดที่ซับซ้อน และตรวจสอบยากมากขึ้น ตัวอย่าง เช่น ผู้บริหารว่าจ้างคนกลุ่มหนึ่งมาซื้อขายหุ้น ตัวใดตัวหนึ่ง แล้วยอมขาดทุนเพื่อปั่นหุ้น โดยใช้ตลาดหลักทรัพย์ฯเป็นที่ฟอกเงิน"
นายสมชายยังกล่าวอีกว่า ในส่วนของ กฎหมายหลักทรัพย์ด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ปัจุบัน ก.ล.ต.บังคับใช้โทษแก่ผู้กระทำผิดส่วนใหญ่เกิดขึ้นในกรณีใช้ข้อมูลภายในนำไปเปิดเผยต่อประชาชน และความผิด เกี่ยวกับการขาดความระมัดระวัง ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน โดยในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ก.ล.ต.ได้ดำเนินการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำผิดทางกฎหมายหลักทรัพย์ แล้วจำนวน 8 คดี โดยมี ผู้กระทำผิด 21 ราย
ซึ่งความผิดที่ดำเนินการ ได้แก่ อินไซเดอร์ และความผิดเกี่ยวกับการขาดความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยเป็นเงินค่าปรับทางแพ่งจำนวนกว่า 31 ล้านบาท และให้ชดใช้เงินเท่ากับ ผลประโยชน์ที่ได้รับจำนวน 19.6 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าว ก.ล.ต.นำส่งให้กระทรวงการคลังเป็นรายได้แผ่นดิน จำนวนกว่า 50 ล้านบาท
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน
WebSite : http://www.anticorruption.in.th